ในปัจจุบันได้มีการศึกษาวิจัยต่อยอดสมุนไพรไทยจนเป็นที่ยอมรับกันอย่างกว้างขวาง ยิ่งในช่วงสถานการณ์โควิด-19 สมุนไพรไทยนับเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่สามารถใช้บรรเทาอาการเบื้องต้นของไข้หวัดได้ ระหว่างที่เรารอวัคซีนยังไม่มา โรงพยาบาลเตียงเต็ม เราสามารถใช้ สมุนไพรไทยพื้นบ้านมาประยุกต์ใช้ร่วมกับการรักษาเเบบเเพทย์เเผนตะวันตกได้ครับ

 สมุนไพรไทย

1.ฟ้าทะลายโจร มีการศึกษาวิจัยกันอย่างแพร่หลาย ทั้ง จีน สิงคโปร์ รวมถึงประเทศไทย และได้มีการนำเสนอผ่านสื่ออย่างต่อเนื่อง โดยงานวิจัยที่ได้รับการรับรองแล้วพบว่า กลไกต้านไวรัสของฟ้าทะลายโจรป้องกันไม่ให้ไวรัสเข้าเซลล์ ลดการแบ่งตัวไวรัสภายในเซลล์ เพิ่มภูมิคุ้มกันในการต่อสู้กับไวรัส รวมถึงลดอาการการอักเสบที่ปอดจากการติดเชื้อไวรัส

ตามศาสตร์การแพทย์แผนไทย “ฟ้าทะลายโจร” จัดเป็นสมุนไพรที่มีรสขม อยู่ในกลุ่มยาเย็น มีสรรพคุณทางการแพทย์แผนไทย ใช้บรรเทาอาการไข้หวัด แก้ไอและเจ็บคอ เป็นสมุนไพรที่ได้ถูกบรรจุอยู่ในบัญชียาหลักแห่งชาติ พ.ศ. 2542 (บัญชียาจากสมุนไพร) กระทรวงสาธารณสุข ในรูปแบบยาเดี่ยว

ในมุมมองการเกิดโรคหรืออาการตามศาสตร์การแพทย์แผนไทยนั้น อาการไข้ ไอ เจ็บคอ เป็นอิทธิพลของธาตุไฟที่เพิ่มปริมาณสูงขึ้น ทำให้เกิดอาการดังกล่าว เราจึงสามารถใช้สมุนไพรฤทธิ์เย็น (สมุนไพรฟ้าทะลายโจร) เพื่อใช้ในการรักษาอาการที่ส่งผลมาจากอิทธิพลของไฟที่เพิ่มขึ้นได้ พูดง่ายๆคือ ใช้ความเย็น ปรับหรือลดปริมาณความร้อนในร่างกายให้สมดุลนั่นเอง แต่หากใช้ในปริมาณเกินความจำเป็นก็อาจส่งผลทำให้ ร่างกายมีปริมาณความเย็นเกินไป ส่งผลทำให้เกิดอาการไม่พึงประสงค์ตามมาได้ เช่น อาการชาต่างร่างกาย แขน-ขาอ่อนแรง ท้องอืดท้องเฟ้อ ท้องเสีย หรือผื่นแพ้ตามร่างกาย เป็นต้น

วิธีทำคือ ใช้ใบของต้นฟ้าทะลายโจร นำมาตากแห้งแล้วบดให้เป็นผงปั้นกับน้ำผึ้งเป็นยาลูกกลอน แล้วรับประทานได้ทันทีเมื่อมีอาการหวัด

ขณะที่  “ฟ้าทะลายโจร” ในการรักษา “ผู้ป่วยโควิด-19” ที่อาการไม่หนัก โดย กรมการแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือก พบว่า สารสำคัญแอนโดรกราโฟไลด์ (Andrographolide) ในฟ้าทะลายโจรน่าจะมีศักยภาพในการช่วยป้องกันไม่ให้เชื้อโคโรนาเข้าเซลล์และป้องกันการแบ่งตัวของโคโรนาไวรัสได้

ทางกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก จึงได้ร่วมมือกับคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และองค์การเภสัชกรรม (อภ.) ดำเนินการศึกษานำร่องผลของยาสารสกัดฟ้าทะลายโจรขนาดสูง ต่อผู้ป่วยโรคโควิด-19 หลังจากการวิจัยในหลอดทดลอง พบว่า มีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อและยังยั้งการแบ่งตัวของไวรัสได้

“ฟ้าทะลายโจร” ปลูกง่าย ราคาถูก จากการเปรียบเทียบในยาชนิดอื่นที่ผู้ป่วยโควิดใช้ต่อราย พบว่า พาราเซตามอล ราคา 60 บาท ผลที่ได้ คือ ลดไข้ , ฟ้าทะลายโจร 180 บาท (ใช้ 5 วัน) ผลที่ได้ คือ ลดไข้ ต้านการอักเสบ ฆ่าเชื้อไวรัส ขณะที่ ฟาวิพิราเวียร์ 4,800 บาท ผลที่ได้ ฆ่าเชื้อไวรัส

ดังนั้น การใช้ “ฟ้าทะลายโจร”น่าจะเป็นทางเลือกในการยุติโรค และลดการใช้ฟาวิพิราเวียร์ ลดอัตราการเสียชีวิต ลดการเข้าไอซียูซึ่งต้องใช้มูลค่าหลักล้านต่อราย อย่างไรก็ตาม ต้องใช้ภายใต้การดูแลของแพทย์ และ ใช้เพียง 5 วันเท่านั้น

ศึกษาเพิ่มเติมได้ที่ สรรพคุณ ฟ้าทะลายโจร | คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล (mahidol.ac.th)

 

2.ขิง ซึ่งมีรสเผ็ดร้อน มีคุณสมบัติอุ่น พบฤทธิ์ต้านไวรัสไข้หวัดใหญ่ โดยทั่วไปแล้วมักนำมากินแก้หวัด ซึ่งขิงนั้นมีสารต้านอนุมูลอิสระ (anti–oxidant) และสารต้านการอักเสบ (anti-inflammatory) อยู่มากมาย เช่น Gingerol, Shogoal และ Paradoal

สมุนไพรไทย ขิงไม่ได้ช่วยป้องกัน COVID 19  แต่ขิงช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันได้

ด้วยความที่ COVID 19 เป็นโรคอุบัติใหม่  และยังไม่มีรายงานว่าอาหารชนิดใดที่จะช่วยป้องกัน COVID 19 ดังนั้นการกินเพื่อป้องกัน COVID 19 จะถือว่าผิดวัตถุประสงค์ไปหน่อย หากเราอยากป้องกันโรคนี้ สิ่งที่ควรทำคือกินอาหารที่ร้อน สุกสะอาด และมีผักทุกมื้อ แยกช้อน แยกชาม แยกของใช้ของกันละกัน เว้นระยะห่างจากคนอื่นๆ ตามหลักการ Social Distancing หรือ Physical Distancing ยึดหลักว่า โรคติดต่อจะไม่ติดต่อถ้าเราไม่ติดต่อกัน นั่นเองค่ะ 

แม้ว่าขิงจะไม่ได้ช่วยป้องกันโรค แต่มีงานวิจัยหลายๆ ชิ้นที่บอกว่า ขิงนั้นมีสารต้านอนุมูลอิสระ (anti – oxidant) และสารต้านการอักเสบ (anti-inflammatory) อยู่มากมาย เช่น Gingerol , Shogoal และ Paradoal  โดยพบว่า ขิงสามารถช่วยลดอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อหลังจากการออกกำลังกายได้ นอกจากนี้ สารในขิงบางตัว ยังทำหน้าที่ป้องกันการเจริญเติบโตและการกลายพันธุ์ของเซลล์มะเร็งได้หลากหลายชนิด แต่ก็ยังอยู่ในขั้นตอนการวิจัยในระดับหลอดทดลองและสัตว์ทดลองเท่านั้น ยังคงต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมอีก  

3.มะขามป้อม เป็นยาแก้ไอ ละลายเสมหะ โดยพื้นบ้านใช้รักษาหลอดลมอักเสบ วัณโรคปอด หอบหืด ช่วยส่งเสริมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน โดยสารสำคัญในมะขามป้อมสามารถจับกับขาโปรตีนของไวรัสโควิด-19 และตัวรับ ACE2 ซึ่งมีบทบาทการผ่านเข้าเซลล์ปอด และยังเข้าจับกับเชื้อในหลายตำแหน่งที่มีผลต่อการยับยั้งการสร้างและการแบ่งตัวของเชื้อไวรัสได้

กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข เผยผลศึกษาวิจัยสารสกัดจากมะขามป้อม พบว่า มีประสิทธิภาพในการบำรุงผิวพรรณ ลดริ้วรอย ทำให้ผิวกระจ่างใส เพิ่มความยืดหยุ่นและกระชับผิว ช่วยยกระดับศักยภาพสมุนไพรไทยให้มีมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ พร้อมถ่ายทอดองค์ความรู้สู่ภาคเอกชนที่สนใจ เพื่อนำไปผลิตในเชิงพาณิชย์ต่อไป

มะขามป้อม เป็นสมุนไพรไทยที่มีศักยภาพสูง มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Phyllanthus emblica L.จัดเป็นพืชในวงศ์ Euphorbiaceae ผลมะขามป้อมมีสรรพคุณแก้ไอ ขับเสมหะ แก้ท้องเสีย นอกจากนี้มีรายงานวิจัยเกี่ยวกับคุณสมบัติการบำรุงดูแลผิวพรรณ ได้แก่ ฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระและคุณสมบัติทำให้ผิวขาวขึ้น

4.ขมิ้นชัน จากการศึกษาในหลอดทดลอง พบว่ามีฤทธิ์ต่อต้านเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์เอ ในการป้องกันไม่ให้เชื้อเข้าเซลล์ ยับยั้งการแบ่งตัวของเชื้อไวรัส และช่วยยับยั้งการหลั่งสารอักเสบ ทั้งนี้จากการจำลองภาพสามมิติในคอมพิวเตอร์ พบว่าสารสำคัญของขมิ้นชัน และ demethoxycurcumine สามารถแย่งจับกับตำแหน่งของไวรัสโควิด-19 ที่มีผลยับยั้งการแบ่งตัวของไวรัสได้

ขมิ้นชัน เป็นพืชล้มลุกที่จัดอยู่ในตระกูลขิง มีเหง้าอยู่ใต้ดิน เนื้อในของเหง้าจะเป็นสีเหลือง มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว มีตั้งแต่สีเหลืองเข้มจนถึงสีแสดจัด โดยถิ่นกำเนิดอยู่ในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และมีชื่ออื่น ๆ อีก เช่น ขมิ้นชัน ขมิ้นแกง ขมิ้นหยอก ขมิ้นหัว ขี้มิ้น หมิ้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแต่ละภาคและจังหวัดนั้น ๆ นิยมนำไปใช้ในการประกอบอาหาร แต่งสี แต่งกลิ่นอาหาร เช่น แกงไตปลา แกงกะหรี่ เป็นต้น

ศึกษาวิธีทานขมิ้นชันได้ที่

| สำนักงานเกษตรและสหกรณ์ จังหวัดสุรินทร์ : กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (opsmoac.go.th)

 

5.กระเทียม มีฤทธิ์ต่อระบบภูมิคุ้มกัน สาร allicin ในกระเทียม มีฤทธิ์ลดการอักเสบ ป้องกันการหลั่งสาร cytokine ที่ทำให้เกิดการอักเสบ นอกจากนี้ยังส่งเสริมการทำงานของเม็ดเลือดขาว และช่วยเพิ่มแอนติบอดี้ ชนิด immunoglobulin A (IgA) ซึ่งเป็นด่านแรกของภูมิคุ้มกันในร่างกาย โดยพบมากที่ระบบทางเดินหายใจและระบบทางเดินอาหาร ตามเยื่อเมือกต่างๆ และยังช่วยกระตุ้นการทำงานของ B-cell lymphocyte รวมทั้งกระตุ้นการหลั่งของสาร interferon ซึ่งเป็นสารที่สร้างในระบบภูมิคุ้มกันเพื่อต้านไวรัส จากการจำลองภาพสามมิติในคอมพิวเตอร์ พบว่า สารสำคัญ quercetin และ allicin ที่พบสามารถแย่งจับกับตำแหน่ง main protease ที่ช่วยยับยั้งการแบ่งตัวของไวรัสโควิด-19 ได้ 

6.หอมแดง” มีสรรพคุณช่วยให้หายใจสะดวกและโล่งขึ้น  เป็นสมุนไพรที่คนเฒ่าคนแก่นิยมนำมาทุบให้แตกแล้ววางไว้ใกล้ ๆ ศีรษะเพื่อให้เด็กสูดดมตามความเชื่อว่าช่วยรักษาหวัดได้ ในทางวิทยาศาสตร์หอมแดงมีสารประกอบกลุ่มออร์กาโนซัลเฟอร์ (Organosulfur) เช่น ไดแอลลิลไดซัลไฟด์ (Diallyl Disulphide) ไดแอลลิลไตรซัลไฟด์ (Diallyl Trisulfide) เอสอัลลิลซิสเทอีน (S-Allyl Cysteine) และอัลลิซิน (Allicin) เชื่อว่ามีคุณสมบัติต้านการอักเสบและอาจช่วยรักษาโรคหวัดได้

วิธีทำคือ นำหัวหอมแดงมาทุบให้พอบุบ จากนั้นห่อด้วยผ้าขาวบาง แล้วนำไปวางไว้ใกล้ ๆ หมอนของผู้ที่เป็นหวัด รับรองจมูกโล่ง หายใจคล่องแน่นอนค่ะ

  • รวมมิตร”สมุนไพร”มะนาว ขิง ตะไคร้ แก้ไข้ ไอ เสมหะ

7.มะนาว”ผลไม้รสเปรี้ยวที่อุดมไปด้วยวิตามินซี และสารอาหารมากมายที่จำเป็นต่อการทำงานของร่างกายและระบบภูมิคุ้มกัน มะนาวสามารถบรรเทาอาการจากหวัดได้ โดยเฉพาะอาการเจ็บคอ ช่วยให้หายใจโล่ง ลดอาการไอ ลดเสมหะ โดยต่างประเทศมีการใช้มะนาวเหลืองหรือเลมอนเป็นยาพื้นบ้านในการแก้หวัดด้วย แต่การศึกษาในด้านนี้ยังคงมีจำกัด จึงยังไม่สามารถบอกได้อย่างชัดเจนว่ามะนาวจะช่วยรักษาหวัดได้

วิธีทำคือ นำมะนาวมาคั้นให้ได้น้ำ จากนั้นให้ผสมกับน้ำผึ้งและนำมาชงกับน้ำร้อน ดื่มอุ่น ๆ หายใจโล่ง บรรเทาอาการไอได้ดี

ทั้งนี้ การบริโภคมะนาวเป็นอาหารในปริมาณที่พอเหมาะนั้นค่อนข้างปลอดภัยสำหรับคนส่วนใหญ่ แต่ยังไม่มีข้อมูลด้านความปลอดภัยที่น่าเชื่อถือเพียงพอเกี่ยวกับการบริโภคเป็นปริมาณมาก และการบริโภคในระหว่างที่ตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร จึงควรหลีกเลี่ยงการบริโภคมะนาวในปริมาณมาก เพราะอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพร่างกายได้

จากกรณีที่มีการแชร์ข้อมูลในโลกออนไลน์ ถึงสรรพคุณของมะนาว ที่อ้างว่าสามารถรักษาโรคโควิด-19 Workpoint Today จึงนำข้อมูลนี้ สอบถามกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ดร.นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค นายกสมาคมเวชศาสตร์ป้องกัน แห่งประเทศไทย ระบุว่า มะนาวมีวิตามินซีสูง ช่วยให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันแต่ไม่สามารถฆ่าเชื้อไวรัสได้

“สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่เป็นการฆ่าเชื้อโรค แต่ไปทำให้เชื้อโรคไม่สามารถฝังเข้าไปในเซลล์ของทางเดินหายใจและปอดได้ง่าย และให้กำจัดออกทิ้งไป ยังไม่มียาใดๆ ทั้งสิ้น ในการฆ่าเชื้อไวรัส ในโลกนี้ ยาที่มีอยู่ ที่ใช้ตอนนี้คือ ยาฟาวิราเวียร์ ก็เพียงแต่ทำให้เชื้อมันอ่อนแรง และร่างกายกำจัดมันด้วยการกินมันด้วยเซลล์เม็ดเลือดขาวเท่านั้นเอง แต่อย่าไปเข้าใจผิดว่าถ้าเราป่วยหนัก แล้วไปถินพวกนี้จะทำให้เชื้อหมดไปจากร่างกาย มันเป็นไปไม่ได้”  ดร.นพ.พรเทพ กล่าว

นอกจากนี้การทานผักรสขม ผลรสเปรี้ยวชนิดอื่นๆ ก็จะทำให้ร่างกายแข็งแรงและมีภูมิคุ้มกันต่อโควิด-19 ได้เช่นกัน เนื่องจาก การทำให้ทางเดินหายใจชุ่มชื้น ด้วยการดื่มน้ำเยอะๆ ดื่มกินผลไม่ที่มีรสเปรี้ยว มีวิตามินซีสูงๆ ทำให้เชื้อไวรัส ไม่สามารถฝั่งตัว และแบ่งตัวได้ในโพรงจมูก และลำคอ เพราะฉะนั้นในช่วงแรกของการก่อนป่วย ที่ไวรัสยังไม่เข้าสู่กระแสเลือดและลงไปฝังตัวอยู่ที่ปอด เราสามารถทำให้ร่างกายเราแข็งแรงได้หลายวิธี ตั้งแต่เรื่องการออกกำลังกาย การกินอาหารที่มีประโยชน์ โดยเฉพาะอาหารรสขม รสเปรี้ยว แต่ไม่ควรกินอย่างเดียวติดต่อกัน

7.“หัวหอมใหญ่” จะช่วยให้ระบบไหลเวียนโลหิตทำงานได้ดีและช่วยขับเสมหะ มีสารเคอร์ซิติน (Quercetin) ซึ่งเป็นยาขยายหลอดลม ที่มีฤทธิ์ต้านไวรัสไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ ฤทธิ์เพิ่มภูมิคุ้มกัน ฤทธิ์ต้านฮิสตามีน ช่วยขยายหลอดลม และหอมยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมายจึงสามารถรักษาอาการหวัด

วิธีทำคือ ล้างหัวหอมใหญ่ให้สะอาด และนำไปห่อผ้าขาวบางแบบหลวม ๆ  ใช้สูดดม หรือจะทำไปฝากคนที่มีอาหารหวัดคัดจมูก จะช่วยให้อาการดีขึ้น 

8.“พริก”  สมุนไพรที่ใช้ในทางการแพทย์มาอย่างยาวนาน  เนื่องจากภายในผลพริกซึ่งมีเมล็ดติดอยู่จะมีสารแคปไซซินที่ก่อให้เกิดความเผ็ด ความเผ็ดร้อนนี้จะทำให้ร่างกายขับเหงื่อและขจัดสารพิษออกจากร่างกายได้ โดยจะนำสารแคปไซซินที่สกัดได้จากผลพริกมาใช้เป็นส่วนผสมของยาต่างๆ ทั้งชนิดรับประทานและทาภายนอก เช่น ยาแก้หวัด และสามารถรักษาอาการไอได้ด้วย

วิธีทำคือ  ให้นำต้นพริก ยกเว้นในส่วนของเม็ดพริก มาล้างหน้าให้สะอาดจากนั้นนำมาสับเป็นท่อนสั้นๆ แล้วตากแดดจนแห้ง นำต้นพริกที่ตากแดดจนแห้งแล้วประมาณ 15 กรัมมาต้มกับน้ำ 1 ลิตรให้เดือด รินเอาแต่น้ำมาดื่มก่อนอาหาร โดยดื่มครั้งละ 1 แก้ว ช่วงเวลาเช้า-เย็น สรรพคุณของมันจะช่วยให้หายใจสะดวกขึ้น

9.กะเพรา” สมุนไพรที่คนไทยนิยมใช้แก้ไอ แก้หวัด แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ มีสรรพคุณช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง

วิธีทำคือ นำใบกะเพรามาทำเป็นอาหาร  หรือให้นำ เอาใบกระเพราสด(กระเพราแดงหรือกระเพราเขียวก็ได้) 1-2กำมือไปต้มใส่น้ำพอท่วมต้ม โดยต้มจนให้เหลือน้ำเพียงครึ่งหนึ่ง จากนั้น เอาน้ำมาดื่ม โดยดื่มวันละ 2-3 แก้ว และ ดื่มได้เรื่อยๆจนกว่าอาการจะดีขึ้น การต้มควรใช้เพียงครั้งเดียวไม่ควรต้มซ้ำ

Reference:

กระเทียมไทยช่วยต้านโควิด-19 – กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก (moph.go.th)

กรมวิทย์ฯเผย สารสกัดจากมะขามป้อม บำรุงผิว-ลดรอย – Thaihealth.or.th | สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)

แพทย์ ชี้ มะนาวมีประโยชน์ต่อสุขภาพ แต่ใช้รักษา COVID-19 ไม่ได้ – workpointTODAY

สูตรรักษากรดไหลย้อนด้วยน้ำกะเพรา (greenshopcafe.com)

สุดยอด!! 10 ‘สมุนไพร’ แก้หวัด ต้านโควิด -19 ที่ไม่ควรพลาด (bangkokbiznews.com)

กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข (dmh.go.th)

สถาบันสอนว่ายน้ำด้วยความรัก ความเชื่อ และความหวัง ที่เดียวในไทย ว่ายไม่เป็นเรายินดีคืนค่าเรียนเต็มจำนวน เราพร้อมช่วยท่านว่ายน้ำเป็นเร็วภายในคอร์สเดียว สร้างพื้นฐานว่ายน้ำเพื่อไปต่อยอดกีฬาทางน้ำ ได้รับการยอมรับจากสื่อชั้นนำทั่วประเทศ ดาราหลายท่านไว้วางใจมาเรียนที่นี่ รับประกันผล 100% คุ้มค่ากับทักษะที่ท่านจะได้รับติดตัวไปตลอดชีวิต

เรียนว่ายน้ำ,สถาบันสอนว่ายน้ำ,หาครูสอนว่ายน้ำ,เรียนว่ายน้ำเป็นเร็ว,ครูสอนว่ายน้ำ,โรงเรียนสอนว่ายน้ำ,เรียนว่ายน้ำผู้ใหญ่,เรียนว่ายน้ำเด็ก,เรียนว่ายน้ำเป็นเร็ว,เรียนพื้นฐานดำน้ำ,เรียนพื้นฐานว่ายน้ำ,